ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรีนำส่วนราชการจังหวัดลพบุรีให้การต้อนรับเอกอัครราชทูตต่างประเทศประจำประเทศไทย ผู้บริหารกระทรวงการต่างประเทศ และสื่อมวลชนต่างประเทศเยือนจังหวัดลพบุรี เพื่อศึกษาประวัติความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับต่างประเทศในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 11.15 น. ณ พระนารายณ์ราชนิเวศน์ ตำบลท่าหิน อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี นาบอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี พร้อมด้วย นางสุวจี ศิริปัญโญ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดลพบุรี พร้อมด้วยคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับนางลาลีวรรณ กาญจนจารี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ คณะเอกอัครราชทูตต่างประเทศประจำประเทศไทย ผู้บริหารกระทรวงการต่างประเทศ และสื่อมวลชนต่างประเทศเยือนจังหวัดลพบุรี
สืบเนื่องจากจังหวัดลพบุรี ได้รับการประสานงานจากกระทรวงการต่างประเทศว่าคณะเอกอัครราชทูต จำนวน 50 – 60 คน จาก 22 ประเทศ จะเดินทางมาเยือนจังหวัดลพบุรี และเยี่ยมชมสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของจังหวัดลพบุรี ที่มีต่อประวัติศาสตร์ การทูตไทย การเปิดรับการมีความสัมพันธ์กับต่างประเทศและชาวต่างชาติโดยดำเนินการภายใต้กรอบการทูตสาธารณะภายใต้ชื่อโครงการ “บัวแก้วสัญจร” (MFA Outreach) ครั้งที่ 1/2568 เยือนจังหวัดลพบุรี ณ พระนารายณ์ราชนิเวศน์ เพื่อศึกษาประวัติความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับต่างประเทศในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ในขณะเดียวกันจังหวัดลพบุรีได้กำหนดจัดงานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ครั้งที่ 37 ในวันที่ 14 – 23 กุมภาพันธ์ 2568 ณ สถานที่แห่งนี้และโบราณสถานใกล้เคียง ซึ่งเป็นช่วงที่ชาวจังหวัดลพบุรีร่วมรณรงค์แต่งไทย ทั้งเมือง โดยคณะเอกอัครราชทูตได้ร่วมแต่งกายชุดไทย เข้าเยี่ยมชมโบราณสำคัญและร่วมสักการะพระบรมรูปของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ณ พระที่นั่งดุสิตสวรรค์ธัญญมหาปราสาท ซึ่งสร้างความประทับใจแก่คณะทูตเป็นอย่างมาก จากนั้นในเวลาต่อมาเอกอัครราชทูตต่างประเทศประจำประเทศไทย ผู้บริหารกระทรวงการต่างประเทศ และสื่อมวลชนต่างประเทศเข้าไปเยี่ยมชมบ้านหลวงรับราชทูตหรือบ้านวิชาเยนทร์ เพื่อศึกษาการเปิดโลกการเจริญสัมพันธไมตรีกับชาวเปอร์เซียและชาวตะวันออก และเดินทางไปเยี่ยมชมพระที่นั่งไกรสรสีหราช (พระที่นั่งเย็น หรือพระตำหนักทะเลชุบศร) โดยในจุดนี้คณะจะได้รับชมการแสดงโขน และการแสดงระบำลพบุรี พร้อมทั้งเยี่ยมชมและซื้อสินค้าตลาด OTOP สินค้าดีของจังหวัดลพบุรีอีกด้วย จากนั้นคณะจะเดินทางไปยังจังหวัดพระนครศรีอยุธยาต่อไป
