“พี่จะรักเดียวใจเดียว ดุจทานตะวัน ที่มีให้ต่อพระอาทิตย์” เปิดแล้วแลนด์มาร์คแห่งใหม่เมืองลพบุรี มาร่วมรักกัน ณ ทุ่งทานตะวันบานตำบลกกโก
เวลา 09.30น. วันพฤหัสบดีที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 นายนิวัตน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เป็นประธาน เปิดเทศกาลท่องเที่ยวทุ่งทานตะวันบาน ในโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวทุ่งทานตะวันบานที่ตำบลกกโก ณ เทศบาลตําบลกกโก อําเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี โดยมีนางวัชราภรณ์ รุ่งสาคร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดลพบุรี นางฐิติรัตน แวงชิน รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดลพบุรี คณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดลพบุรี หัวหน้าส่วนราชการ นักเรียน และประชาชน ร่วมงานเทศกาลท่องเที่ยวทุ่งทานตะวันบาน ในวันแห่งความรัก บนพื้นที่รวมกว่า 50 ไร่ ของตำบลกกโก อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี ให้เป็นสัญญาลักษณ์แห่งความรัก ที่บานสะพรั่งในเดือนกุมภาพันธ์ “วันวาเลนไทม์” วันแห่งความรัก ทางสากลจะใช้ดอกกุหลาบ แต่ที่ลพบุรีจะใช้ดอกทานตะวันเป็นสัญญาลักษณ์แห่งรักแท้ เพราะดอกทานตะวัน จะกี่ปี กี่วัน ก็รักมั่นต่อดวงอาทิตย์เสมอ
ซึ่งสำนักงานเทศบาลตำบกกกโก นำโดยนายก่อภณ ฮุ้นสกุล นายกเทศมนตรีตำบลกกโก ได้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 10 กุมภาพันธ์ บานต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2565 เพื่อให้เป็นแลนด์มารค์แห่งใหม่ ในช่วงเทศกาลวันแห่งความรักส่งเสริมการการท่องเที่ยวเชิงเกษตรทุ่งทานตะวันบาน ของตำบลกกโก ประจำปี 2565 ที่สำคัญช่วงเดือนกุมภาพันธ์ยังเป็นเดือนแห่งการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ที่ลพบุรีก็มีการแต่งชุดไทยทั้งเมือง ยิ่งมาถ่ายรูป ที่ทุ่งทานตะวันเทศบาลกกโก ก็ยิ่งสวยงามมากขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมให้หน่วยงาน ชุมชน และองค์กรท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีใหม่ในชุมชนของตนเอง ในรูปแบบใหม่ New Normal ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด 19 กระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดลพบุรี ซึ่งผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะต้องผ่านจุดคัดกรอง แสดงผลการฉีดวัคซีนมาก่อนแล้ว อย่างน้อย 2 เข็ม หรือแสดงผลการตรวจหาเชื้อโควิด 19 ด้วย ATK ตามที่คณะกรรมการจัดงานกำหนด เพื่อควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด 19
สำหรับกิจกรรมภายในงาน มีรถรางโบราณ คอยให้บริการ รับ-ส่ง นักท่องเที่ยว พาชมทุ่งทานตะวันแปลงใหญ่ในพื้นที่ของตำบลกกโก พร้อมทั้งเปิดพื้นลานกิจกรรม จำหน่ายสิ้นค้าของฝาก ผลิตภัณฑ์ชุมชน ของกลุ่มวิสากิจชุมชนต่างๆ วางจำหน่ายภายในงาน เพื่อเป็นการส่งเสริมให้คนในชุมชนมีรายได้ จากการจำหน่ายสินค้าของตนเองให้แก่นักท่องเที่ยว เป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ได้มีช่องทางในการจำหน่ายสินค้าของตนเองได้อีกทางหนึ่งด้วย
