รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เร่งแก้ไขปัญหาเอกสารสิทธิ์ทับซ้อนจังหวัดลพบุรี
วันที่ 21 กันยายน 2563 เวลา 14.00 น. ที่ห้องประชุมเทศบาลตำบลโคกตูม อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดการเสวนา เรื่อง “การแก้ไข การใช้พื้นที่ ทับซ้อนระหว่าง พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตหวงห้ามเพื่อใช้ในราชการทหาร พ.ศ.2479 กับพระราชกฤษฎีกากำหนด เขตหวงห้ามเพื่อใช้ประโยชน์ในการประชาสงเคราะห์ พ.ศ.2483” โดยมีผู้ร่วมเสวนา ประกอบด้วย นายประทวน สุทธิอำนวยเดช รองประธานคณะกรรมาธิการการอุสาหกรรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.ลพบุรีพ.อ.ดุสิต ประพฤติดีพร้อม เสนาธิการมณฑลทหารบกที่ 13 นายกันตพงศ์ รังษีสว่าง รองอธิบดีกรมพัฒนาสังคนและสวัสดิการ นายณรงค์ สืบตระกูล รองอธิบดีกรมที่ดิน นายดนัย วิจารณ์ ผู้ตรวจราชการกรมธนารักษ์ นายจิตรพรต พัฒนสิน ผู้อำนวยการกองกฎหมายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งยังไม่ได้มีการแก้ไขแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกา สถานะของที่ดินยังคงเป็นเขตหวงห้าม ซึ่งปัจจุบันนิคมสร้างตนเองจังหวัดลพบุรี ได้ออกเอกสารการทำประโยชน์ (น.ค.3) ในพื้นที่ดินดังกล่าวแล้ว โดยเมื่อสมาชิกนิคมสร้างตนเองได้รับอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในที่ดินครบ 5 ปี จะต้องดำเนินการออกหนังสือแสดงการทำประโยชน์ (น.ค.3) เพื่อให้สมาชิกนิคมสร้างตนเองนำไปออกโฉนด แต่ยังไม่สามารถออกโฉนดได้ เนื่องจากติดปัญหาทับซ้อนกับพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตหวงห้ามที่ดินฯ พ.ศ.2479 โดยที่ผ่านมาหน่วยงานระดับจังหวัดได้ร่วมกันหาแนวทางแก้ไขปัญหา ซึ่งมีการออกเอกสารสิทธิ์บ้างแล้ว
โอกาสนี้ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้ร่วมเสวนา ในหัวข้อ “การแก้ไขการใช้พื้นที่ทับซ้อนระหว่างพระราชกฤษฎีกากำหนดหวงห้ามเพื่อใช้ในราชการทหาร พ.ศ.2479 กับพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตหวงห้ามเพื่อใช้ในประโยชน์ในการสงเคราะห์ พ.ศ.2548” โดยมีผู้ร่วมเสวนา ประกอบด้วย นายประทวน สุทธิอำนวยเดช รองประธานคณะกรรมาธิการการอุสาหกรรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.ลพบุรีพ.อ.ดุสิต ประพฤติดีพร้อม เสนาธิการมณฑลทหารบกที่ 13 นายกันตพงศ์ รังษีสว่าง รองอธิบดีกรมพัฒนาสังคนและสวัสดิการ นายณรงค์ สืบตระกูล รองอธิบดีกรมที่ดิน นายดนัย วิจารณ์ ผู้ตรวจราชการกรมธนารักษ์ นายจิตรพรต พัฒนสิน ผู้อำนวยการกองกฎหมายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเข้าร่วมการเสวนา
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในฐานะที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกรัฐมนตรีให้เป็นคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน ซึ่งมีอำนาจหน้าที่กำกับ ติดตาม เร่งรัด ช่วยเหลือเยียวยาและขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาในระดับพื้นที่จังหวัดลพบุรี สิงห์บุรีและชัยนาท เริ่มจากปัญหาที่เป็นความเดือนร้อน เร่งด่วนเพื่อก่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรม และรวดเร็วทันเหตุการณ์ โดยกรณีประเด็นปัญหาที่ดินทำกินของประชาชนในเขตพื้นที่เทศบาลตำบลโคกตูม จังหวัดลพบุรี ซึ่งเกิดการทับซ้อนกันในส่วนของพระราชกฤษฎีกา 2 ฉบับ จะได้เร่งรัดแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนในพื้นที่โดยเร็ว โดยการมีที่ดินทำกินเป็นของตนเองเป็นความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประชาชน สามารถนำที่ดินที่ตนมีกรรมสิทธิ์มาสร้างรายได้ในการประกอบอาชีพด้านการเกษตรและอื่นๆ ได้อย่างมั่นใจ ทั้งนี้ นิคมสร้างตนเองจังหวัดลพบุรีมีเนื้อที่ ทั้งหมด 502,461 ไร่ เป็นพื้นที่ทับซ้อนพระราชกฤษฎีกาฯ พ.ศ.2479 จำนวน 112,294 ไร่ แบ่งเป็น พื้นที่ส่งมอบเมื่อปี พ.ศ.2502 จำนวน 23,044 ไร่ บางพื้นที่ออกโฉนดแล้ว ปัจจุบันมีสมาชิกนิคมฯ ที่ครอบครองเอกสาร น.ค 3 ไม่สามารถออกโฉนดได้ 70 ราย เนื้อที่ 1,154 ไร่ สำหรับพื้นที่ยังไม่ส่งมอบ 89,250 ไร่ มีการออกโฉนดแล้ว 1,371 แปลง เนื้อที่ประมาณ 34,275 ไร่ ปัจจุบัน มีสมาชิกนิคมสร้างตนเองจังหวัดลพบุรีที่ยังครอบครองหนังสือแสดงการทำประโยชน์ (น.ค.3) ไม่สามารถอกโฉนดได้ จำนวน 511 ราย เนื้อที่รวม 9,036 ไร่
